น้ำนาโนกับโรคมะเร็ง
ในหลายบทความได้กล่าวถึงสารพิษหรือสารอนุมูลอิสระเข้าสู่เซลล์ต่างๆในร่างกายแล้ว คงจะต้องดูต่อไปว่าสารพิษหรือสารอนุมูลอิสระเหล่านี้ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกายอย่างไรจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
ภายหลังจากที่สารพิษหรือสารอนุมูลอิสระเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย 3 ประการหลัก คือ
- ก่อให้เกิดการติดเชื้อภายในเซลล์ของร่างกาย เกิดการอักเสบต่อเซลล์หรือเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะของร่างกาย เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ กรเพาะอาหารอักเสบ ลำไส้ใหญ่อักเสบ ไวรัสตับอักเสบ มดลูกอักเสบ รังไขอักเสบ ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์ การเกิดแผลอักเสบเรื้อรังจากแผลเบาหวาน เป็นต้น หากบริเวณอักเสบเป็นเรื้อรังและระยะนานโดยเฉพาะต่ออวัยวะภายในของร่างกาย มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนโครงสร้างเซลล์ เป็นเซลล์มะเร็งได้ เช่น กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง หรือไวรัสตับอักเสบเรื้อรังเป็นระยะเวลานานจะกลายเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับได้ เป็นต้น
- ก่อให้เกิดการเปลี่ยนรหัสดีเอ็นเอในเซลล์ เกิดเป็นเซลล์ผิดปกติขึ้น ค่อยๆทำลายเซลล์ปกติของอวัยวะต่างๆในร่างกาย ส่วนอาการจะปรากฎให้เห็นเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของผู้ป่วยแต่ละราย
- ก่อให้เกิดการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย และอวัยวะเสื่อมตัว ทำให้การทำหน้าที่ของอวัยวะนั้นลดลง จนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บปรากฎให้เห็นได้ เช่น เซลล์เสื่อมที่ตับอ่อน ทำให้หน้าที่ตับอ่อนทำงานแย่ลง การผลิตฮอร์โมนอินซูลินเพื่อจะควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดให้อยู่ในระดับปกติ อินซูลินจะบกพร่องไป ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ หรือเซลล์เสื่อมที่ปอดจากการที่ได้รับสารพิษจากการสูบบุหรี่ ก่อให้เกิดโรคถุงลมโป่งพองจนกลายเป็นมะเร็งปอดได้ หรือเซลล์ตับที่เสื่อมจากการทำลายของสารพิษจากแอลกอฮอล์ (ผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจำ) ก่อให้เกิดเซลล์ตับแข็ง เป็นโรคตับแข็งและกลายเป็นโรคมะเร็งเป็นต้น
อาการที่บ่งชี้ว่าเป็นโรคมะเร็งหรือไม่
บ่อยครั้งที่ไม่ปรากฎอาการใดๆที่ผิดปกติเลย เมื่อเกิดอาการแล้วพบว่าเป็นมะเร็งระยะรุนแรงแล้ว ดังนั้นหากมีอาการใดๆที่ผิดปกติของร่างกายควรจะรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย ปัจจุบันในโรงพยาบาลใหญ่ๆทั่วประเทศ มีแพทย์และเครื่องมือที่ตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งได้ชัดเจน แม่นยำมากขึ้น การวินิจฉัยถูกต้องและสามารถให้การรักษาโรคมะเร็งได้รวดเร็วขึ้น ทั้งการเจาะเลือดตรวจทางห้องวิจัยฯ การเจาะชิ้นเนื้อตรวจ การตรวจระดับฮอร์โมน การเอกซเรย์ และการตรวจทางระบบคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
การรักษา
การรักษาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา จะใช้การรักษาอย่างไรที่จะเหมาะสมและเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยมากที่สุด มีการรักษาโดยการผ่าตัด เคมีบำบัด การฝังแร่ รวมถึวการฉายรังสีรักษา ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการที่กำจัดและระงับการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ต่อต้านและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ปัจจุบันมีการรักษาโรคมะเร็งโดยใช้วิธีการดูแลสุขภาพองค์รวม มาใช้ร่วมกับการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันด้วย ดังนั้นน้ำนาโนจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้
หลักการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง
อาการของโรคมะเร็งจะไม่ดีขึ้นได้เลย ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกายให้แข็งแรง ดังนั้นน้ำนาโนมีคุณสมบัติสามารถเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งให้แข็งแรงขึ้น เพื่อภูมิต้านทานร่างกายที่แข็งแรงนั้น จะไปกำจัดเซลล์มะเร็งหรือต่อต้านให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง พร้อมกันนั้นยังช่วยเสริมสร้างให้สุขภาพทั่วไปแข็งแรงที่จะรับประทานอาหารได้ นอนหลับพักผ่อนได้ ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีขึ้น อาการของโรคมะเร็งสงบตัวลงได้ ลดการทรมานจากโรคได้ดีขึ้น สามารถทำกิจวัตรประจำวันต่างๆได้ดีขึ้น
การดื่มน้ำนาโนเป็นกลุ่มน้ำโมเลกุลเล็กจะทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น เสริมสร้างให้ร่างกายสร้างเสริมภูมิต้านทาน คือ ระดับเม็ดเลือดขาวผลิตได้มากขึ้น การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ลดระดับความตึงเครียดของร่างกายลง เกิดภาวะการผ่อนคลายดีขึ้น เสริมการรักษาจากแพทย์ด้วย นอกจากนี้ปริมาณออกซิเจนในน้ำนาโน ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งด้วย ดังนั้นการดื่มน้ำนาโนวันละ 2 – 4 ลิตร ร่วมกับการรักษาทางการแพทย์ และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องจะสามารถที่จะต้านโรคมะเร็งและอาการโรคมะเร็งสงบได้ สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น
การดูแลสุขภาพร่างกายที่ดีที่สุด คือ การป้องกันโรค การดื่มน้ำนาโนอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกวัน จะช่วยเสริมสร้างร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีและต้านทานโรคภัยไข้เจ็บได้ด้วย
หมายเหตุ: ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ http://www.japin.co.th